สำหรับในยุคนี้แบรนด์ที่มีการทำ Creating Shared Value (CSV) สามารถเอามาเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันในสังคมได้ ซึ่งการทำ CSV มีทั้งหมด 3 ระดับด้วยกัน
1. Reform Product and Market เป็นการดูความต้องการของสังคมและผู้บริโภค จากนั้นมาพัฒนาเป็นสินค้า เช่น พัฒนากับคนด้อยโอกาส หรือนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วมาพัฒนาสินค้าต่อ เป็นการตอบโจทย์คนที่มีความต้องการ ยกตัวอย่าง แบรนด์กระเป๋า ยี่ห้อ Freitag ที่ชูจุดเด่นว่า ทำมาจากผ้าใบรถคอนเทนเนอร์ นอกจากจะได้ความแปลกใหม่แล้ว ยังได้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย
2. Redefine Productivity เพิ่มคุณค่าของสินค้าด้วยกระบวนการต่างๆ ของแบรนด์
3. Reinforce Local Community เป็นการทำให้ชุมชนแข็งแรง ทำให้สังคมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทให้ได้ ยกตัวอย่าง โครงการหลวงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่มีพระราชดำริช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ให้สามารถอยู่ด้วยตนเอง มีอาชีพทำ แล้วส่งขายในนามสินค้าโครงการหลวง
ที่มา: positioningmag.com