โมเดลธุรกิจ คือ ตรรกะที่ทำให้กิจการสามารถหาเงินได้มากพอที่จะทำให้อยู่รอดได้
ในการเริ่มทำความเข้าใจกับโมเดลธุรกิจนั้นต้องตอบคำถามที่สำคัญ 2 คำถามให้ได้ก่อน นั่นก็คือ
- ลูกค้าคือใคร
- งานที่ลูกค้าต้องการให้ทำคืออะไร
ตัวอย่าง New York Road Runners (NYRR) เป็นองค์กรไม่แสวงกำไร ที่ทำหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพของคนในชุมชนด้วยการจัดแข่งขันวิ่ง จัดชั้นเรียนสอนการวิ่ง จัดคลินิคนักวิ่ง และทำค่ายเพื่อฝึกการวิ่ง ลูกค้าหลักของ NYRR คือเหล่านักวิ่ง และสมาชิกในชุมชนที่อยากมีสุขภาพแข็งแรง
ส่วนประกอบทั้ง 9 ส่วนของโมเดล = ตรรกะที่องค์กรหนึ่งๆ สร้างคุณประโยชน์ให้กับลูกค้า
- ลูกค้า = องค์กรแต่ละแห่งให้บริการกับลูกค้า…
- คุณประโยชน์ที่สร้างขึ้น = …โดยการช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้า หรือตอบสนองความต้องการของลูกค้า
- ช่องทาง = องค์กรแต่ละแห่งจะสื่อสารและส่งมอบคุณประโยชน์ที่สร้างขึ้นให้กับลูกค้าด้วยช่องทางที่แตกต่างกัน…
- ความสัมพันธ์กับลูกค้า = …พร้อมทั้งสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าในรูปแบบที่แตกต่างกันไป
- รายได้ = องค์กรจะได้เงินก็ต่อเมื่อลูกค้าจ่ายค่าตอบแทนให้กับคุณประโยชน์ที่สร้างขึ้น
- ทรัพยากรหลัก = หมายถึงสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการสร้าง และ/หรือ ส่งมอบคุณประโยชน์ดังกล่าวให้กับลูกค้า
- กิจกรรมหลัก = หมายถึงภารกิจและการกระทำที่จำเป็นต้องทำเพื่อสร้างและส่งมอบคุณประโยชน์ดังกล่าวให้กับลูกค้า
- พันธมิตรหลัก = กิจกรรมบางอย่างจำเป็นต้องจ้างคนนอกมาทำ และทรัพยากรบางอย่างก็ต้องแสวงหาจากภายนอกองค์กร
- ต้นทุน = ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการจัดหาทรัพยากรหลัก ดำเนินกิจกรรมหลัก และทำงานร่วมกับพันธมิตรหลัก
ลูกค้า
- ลูกค้าแต่ละรายอาจมีความต้องการต่างกันทั้งในแง่สิ่งที่ต้องการ ช่องทางการติดต่อ หรือการสร้างและรักษาความสัมพันธ์
- ลูกค้าบางรายต้องจ่ายค่าบริการ แต่บางรายก็ไม่ต้องจ่าย
- องค์กรต่างๆ มักทำเงินจากลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากกว่าลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่ง
คุณประโยชน์ที่สร้างขึ้น
- เป็นผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากสินค้าหรือบริการที่เราสร้างขึ้นมาและนำมา “ผูกรวม” เข้าด้วยกัน ตัวอย่างของส่วนต่างๆ ของคุณประโยชน์ทร่สร้างขึ้น ได้แก่ ความสะดวก ราคา การออกแบบ ยี่ห้อหรือสถานภาพ การช่วยประหยัดต้นทุน การลดความเสี่ยง
ช่องทาง
- พบหน้ากันหรือทางโทรศัพท์
- ติดต่อที่บริษัทหรือร้านค้า
- จัดส่งสินค้าโดยพนักงาน
- ผ่านอินเทอร์เน็ต (โซเชี่ยลมีเดีย บล็อก อีเมล ฯลฯ)
- สื่อแบบดั้งเดิม (โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ ฯลฯ)
ความสัมพันธ์กับลูกค้า
- ส่วนตัว
- อัตโนมัติ
- ช่วยเหลือตัวเอง
- ธุรกรรมครั้งเดียว
- สมัครใช้บริการต่อเนื่อง
วัตถุประสงค์
- หาลูกค้าใหม่
- รักษาลูกค้าเดิม
- หารายได้จากลูกค้าเดิมให้มากขึ้น
ซึ่งวัตถุประสงค์นี้อาจเปลี่ยนไปได้เมื่อเวลาผ่านไป ยกตัวอย่างเช่น สมัยที่มีมือถือใหม่ บริษัทมือถือต่างก็ตั้งเป้าที่จะหาลูกค้าให้ได้มากขึ้น โดยใช้กลยุทธ์เชิงรุก เช่นการเสนอให้เครื่องโทรศัพท์ฟรีแก่ลูกค้า แต่เมื่อตลาดเร่ิมถึงจุดอิ่มตัวแล้ว บริษัทมือถือก็ปรับไปเน้นที่การรักษาฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้เฉลี่ยของลูกค้าแต่ละรายแทน
รายได้
องค์กรจำเป็นต้อง
- หาให้เจอว่าอะไรคือคุณประโยชน์ที่ลูกค้ายินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อหามา
- ยอมรับรูปแบบการชำระเงินที่ลูกค้าเลือก
ทั้งนี้ รายได้แบ่งออกเป็น
- การชำระเงินของลูกค้าเพียงครั้งเดียว
- การชำระเงินแบบต่อเนื่องเพื่อซื้อสินค้าและบริการ หรือการบำรุงรักษาหลังการขาย
ทรัพยากรหลัก
- ทรัพยากรบุคคล
- ทรัพยากรทางกายภาพ
- ทรัพยากรทางปัญญา
- ทรัพยากรทางการเงิน
กิจกรรมหลัก
นี่คือส่วนสำคัญที่สุดที่องค์กรจะต้องปฏิบัติเพื่อให้ได้โมเดลธุรกิจมี่ใช้การได้จริง
- การผลิต
- การขาย
- การสนับสนุน
พันธมิตรหลัก
คือเครือข่ายที่จะช่วยให้โมเดลธุรกิจใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ต้นทุน
เราสามารถคำนวณต้นทุนได้อย่างคร่าวๆ หลังจากที่ได้กำหนดทรัพยากรหลัก กิจกรรมหลัก และพันธมิตรหลักแล้ว
ธุรกิจที่มีความสามารถในการปรับขนาดถือว่ามีความน่าสนใจมากกว่า
ความสามารถในการปรับขนาดหมายถึง การที่ธุรกิจสามารถปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรับการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ ต้นทุนลดลง แทนที่จะเพิ่มขึ้น
ที่มา: โมเดลธุรกิจของคุณ เขียนโดย Tim Clark โดยความร่วมมือของ Alexander Osterwalder และ Yves Pigneur