
ประเด็นหลัก:
- Google จ่ายเงินจำนวน 21.7 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อการล็อบบี้ในปี ค.ศ. 2018 หรือ พ.ศ. 2561, สูงขึ้นจาก 2 ปีก่อน 38%
- ในขณะที่ Google เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดของอเมริกาที่ใช้จ่ายในการล็อบบี้ Amazon กับ Facebook ก็ติดอันดับใน 20 บริษัทที่ใช้จ่ายสูงในการล็อบบี้
- บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกำลังเผชิญกับกฏเกณฑ์การตรวจสอบอย่างละเอียดในการปฏิบัติทางธุรกิจ
เนื่องจาก Google ต้องเผชิญกับการตรวจสอบอย่างหนักจากกฏเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติทางธุรกิจด้านความเป็นส่วนตัว และการควบคุมตลาด บริษัทจึงใช้เงินมากมายเพื่อการมีอิทธิพลต่อผู้ออกกฏหมาย ไม่มีบริษัทไหนในอเมริกาที่ลงทุนในความพยายามเรื่องนี้มากไปกว่า Google
ข้อมูลจาก Center for Responsive Politics เปิดเผยว่า ปีที่แล้ว Google จ่ายไปกับการล็อบบี้ถึง 21.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเวลา 2 ปี บริษัทขึ้นแท่นในอันดับต้นในการใช้จ่ายที่สูงกว่าบริษัทที่เคยจ่ายสูงรายเดิม อย่าง Boeing และ AT&T นอกจากนี้ Amazon และ Facebook ก็ติดอันดับการใช้จ่ายที่สูงเพื่อการล็อบบี้ในปี 2018 เช่นกัน
ในหลายปีที่ผ่านมา มูลค่าตามราคาตลาดของบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ได้เพิ่มสูงขึ้นไปพร้อมๆ กับอิทธิพลที่มีต่อผู้บริโภค บริษัทด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด ได้มีการเตรียมการไว้สำหรับวันที่การปฏิบัติทางธุรกิจจะถูกตรวจสอบลึกในรายละเอียด แต่ดูเหมือนว่าวันนั้นนั่นคือตอนนี้ มีรายงานว่า the Justice Department กำลังเตรียมสอบสวนในเรื่องความไม่น่าไว้ใจของ Google และขออำนาจศาลควบคุม Apple โดยอ้างถึงการทบทวนในภาพกว้างของอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี ส่วน The Federal Trade Commission (FTC) ทำหน้าที่ควบคุม Amazon และ Facebook
แม้แต่ก่อนการพัฒนากฏเกณฑ์ล่าสุด ผู้ออกกฎหมายทั้งสองฝั่งก็เป็นฟันเฟืองที่กดดันบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ หนึ่งในการวิพากษ์วิจารณ์นั้น มีสมาชิกวุฒิสภารัฐแมสซาชูเซตส์ ชื่อ Elizabeth Warren ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีแบบประชาธิปไตยร่วมด้วย โดยเธอได้โปรโมทแคมเปญชื่อว่า “break up big tech”
การใช้จ่ายของบริษัทด้านเทคโนโลยีในการล็อบบี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอในหลายปีที่ผ่านมา และสูงกว่าทศวรรษที่แล้วเป็นอย่างมาก ในปี 2009 Google ใช้เงินเพียง 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการล็อบบี้ แต่ได้ใช้เงินเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าในปีที่แล้ว ข้อมูลจากรายงานของ Center for Responsive Politics

Google เริ่มใช้จ่ายด้านล็อบบี้มากขึ้นในปี 2011 และ 2012 เพราะเผชิญความท้าทายจาก FTC ในปี 2012 Google ต้องจ่ายค่าปรับให้กับ FTC ถึง 22.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเรื่องความเป็นส่วนตัว และได้เปลี่ยนวิธีการปฏิบัติทางธุรกิจตามข้อกังวลของ FTC ส่งผลให้บริษัททำการแข่งขันได้ยากยิ่งขึ้น
Amazon ใช้จ่ายไป 14.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการล็อบบี้เมื่อปีที่แล้ว และ Facebook ก็ได้เจียดเงิน 12.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อการล็อบบี้ ซึ่งบริษัททั้ง 2 ติดอันดับใน 20 บริษัทที่ใช้จ่ายเงินด้านนี้สูง ต้นทุนของ Facebook สูงขึ้นถึง 45% จากปี 2016 และเกือบ 60 เท่าจากปี 2009 ซึ่ง Facebook คาดว่าบริษัทจะถูกปรับสูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการตรวจสอบของ FTC ที่เริ่มขึ้นหลังจากข้อครหาของ Cambridge Analytica เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสืบเสาะว่า Facebook ละเมิดข้อตกลงปี 2011 ที่ทำไว้กับ FTC หรือไม่ ในเรื่องการได้รับการยินยอมเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้ก่อนการแชร์
Amazon ใช้เงินสูงขึ้นถึง 27% จาก 2 ปีก่อน หรือเกือบ 8 เท่า ในรอบ 10 ปี
Microsoft เทเงิน 9.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปกับการล็อบบี้ สูงขึ้นจาก 8.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐในแต่ละปีของเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา และ Apple ก็จ่าย 6.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่แล้ว ลดลงจากปี 2017 แต่สูงกว่า 2016 บริษัทใช้จ่ายไปในเรื่องต่างๆ ตั้งแต่การแข่งขันไปจนถึงความเป็นส่วนตัว
อเมริกามีการบังคับใช้กฏหมายที่ดีรองจากยุโรป ในเดือนมีนาคม Google ต้องเจอกับค่าปรับ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเรียกร้องโดย the European Commission เพื่อกำจัดคู่แข่งด้านการโฆษณาออนไลน์ ตั้งแต่ปี 2017 EU เก็บค่าปรับจากบริษัทอีก 2 เรื่องรวมเป็นเงินเกือบ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการต่อต้านการปฏิบัติด้านการแข่งขัน
แม้ว่าจำนวนเงินที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจ่ายให้กับการล็อบบี้ทางการเมืองเป็นเงินส่วนน้อยนิดของเงินที่มีอยู่ แต่การเพิ่มขึ้นในสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านนี้แสดงให้เห็นว่า การตัดสินใจที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นั้นมีผลต่อการเติบโตของบริษัทเหล่านี้ในอนาคต
จะเห็นได้ว่าการทำธุรกิจเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องทำการล็อบบี้ด้วย เพื่อให้นโยบาย กฏหมาย และกฏระเบียบต่างๆ เอื้อต่อธุรกิจของเรา
ดูวีดีโอ: Schiffer says tech regulation pressure is intensifying
เนื้อหา: cnbc.com