ชีวิตคือภาพสะท้อนของความคิด มีเพียงสิ่งที่เราปรารถนาอย่างแรงกล้าเท่านั้นที่เป็นพลังสำคัญที่จะช่วยให้ฝันเป็นจริง เมื่อใดที่หัวใจร่ำร้อง เมื่อนั้นเราจะมองเห็นเป้าหมายและพบหนทาง แล้วความสำเร็จก็จะรออยู่ไม่ไกล ความปรารถนาแบบครึ่งๆ กลางๆ จะไม่มีวันนำไปสู่ผลลัพธ์ที่คุณคาดหวัง คุณต้องมีความปรารถนาอันแรงกล้าอยู่ในใจตลอดเวลาไม่ว่าจะยามหลับหรือยามตื่น

ถ้าคุณอยากจะลงมือทำอะไรแปลกใหม่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ จดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นตลอดเวลา ถ้าอยากทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จ คุณก็ต้อง “คลั่งไคล้” และทุ่มเทอย่างหนักด้วยความเชื่อมั่นว่าตัวเองทำได้ เพราะนั่นเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในชีวิตและธุรกิจได้ตามที่ตั้งใจไว้

ความสำเร็จทุกอย่างในชีวิตล้วนเริ่มต้นจากการอยากทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างรุนแรง นึกถึงผลลัพธ์ที่ต้องการตลอดเวลา วาดภาพในหัวอย่างชัดเจน ทุกอย่างที่เรามองเห็นในหัว เราย่อมทำได้ ความคิดของคุณควรอยู่บนพื้นฐานของ “การมองโลกในแง่ดี” อย่างเด็ดเดี่ยว และมีคนที่มองโลกในแง่ดีอยู่รอบตัวเพื่อช่วยกระตุ้นให้จินตนาการของคุณโลดแล่น เมื่อคุณเข้าสู่ขั้นตอนการวางแผน คุณจะต้องทำให้ความคิดของคุณจับต้องได้และมองโลกในแง่ร้ายเอาไว้ก่อน ต้องประเมินปัจจัยเสี่ยงอย่างรอบคอบ จากนั้นเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการลงมือทำ คุณค่อยกลับมามองทุกอย่างในแง่ดีแล้วเดินหน้าทำสิ่งนั้นด้วยความมั่นใจ

คนที่เสี่ยงทำสิ่งใหม่ๆ แล้วประสบความสำเร็จ คือคนที่เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองอย่างแท้จริง “ศักยภาพ” หมายถึง “ความสามารถในอนาคต” กล่าวคือ ถ้าประเมินความสามารถของตัวเองด้วยสิ่งที่ทำได้ในปัจจุบัน เราจะไม่มีวันทำสิ่งใหม่หรือเอาชนะความท้าทายที่เข้ามาในชีวิตได้ แต่ถ้าเราเชื่อในศักยภาพที่มีแล้ววางเป้าหมายให้สูงขึ้นเล็กน้อย ตลอดจนรักษาความปรารถนาให้โชติช่วง เราก็จะประสบความสำเร็จ และขยายขอบเขตความสามารถของตนเองได้

ตอนที่เคียวเซร่าตัดสินใจรับงานจากไอบีเอ็มเป็นครั้งแรกนั้น ไอบีเอ็มสั่งชิ้นส่วนจำนวนมาก และเคียวเซร่ารู้อยู่แล้วว่ายังขาดเทคโนโลยีและทักษะที่จำเป็นในการสร้างผลงานที่ดีในระดับที่ไอบีเอ็มต้องการ นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังมีข้อกำหนดที่เข้มงวดกว่าที่เคยเจอมาหลายเท่าตัว ข้อตกลงดังกล่าวดูจะบ้าบิ่นอยู่สักหน่อย แต่สำหรับบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก นี่เป็นโอกาสทองที่จะพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ และสร้างชื่อเสียงมากขึ้น

เคียวเซร่าได้กระตุ้นพนักงานที่กำลังท้อแท้ให้กลับมามีกำลังใจและทุ่มเทให้กับโครงการนี้โดยใช้เทคโนโลยีทุกอย่างที่มี ด้วยความเพียรพยายามในระดับเหนือมนุษย์ รวมทั้งสวดภาวนา ในที่สุด เคียวเซร่าก็พัฒนาสินค้าที่ “เฉียบคม” ตรงตามข้อกำหนดของไอบีเอ็มได้สำเร็จ จากนั้นจึงดำเนินการผลิตเต็มกำลังเป็นเวลาสองปี เพื่อจัดส่งชิ้นส่วนจำนวนมหาศาลให้ตรงตามเวลา

จะเห็นได้ว่า “มนุษย์เรามีความสามารถที่ไร้ขีดจำกัด” ถ้าทุ่มเทแรงให้เป้าหมายที่ดูเป็นไปไม่ได้และมุ่งมั่นที่จะทำมันให้สำเร็จ เราก็จะขยายขีดความสามารถออกไปได้อย่างมหัศจรรย์ ความอุตสาหะจะปลุกพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวให้เบ่งบาน สิ่งสำคัญคือต้องมองไปยังอนาคต ถึงตอนนี้จะทำบางอย่างไม่ได้ แต่ในอนาคตต้องทำได้แน่ เราต้องเชื่อว่ามีพลังงานบางอย่างหลับใหลอยู่ในตัวเราซึ่งยังไม่ถูกนำออกมาใช้

ที่มา: ช้าให้ชนะ คาซึมอะ อินาโมริ