รูปแบบการระดมทุนคืออะไร?

“รูปแบบการระดมทุน” คือการเข้าหาแหล่งทุนอย่างเป็นระบบและในนามสถาบันเพื่อสร้างรายได้ที่สนับสนุนโครงการและบริการหลักขององค์กร

โดยพื้นฐานแล้ว “รูปแบบการระดมทุน” ที่ไม่แสวงหากําไรจะรวบรวมเงินทุนจากแหล่งต่างๆ มารวมกัน ตัวอย่างเช่น องค์กรไม่แสวงผลกําไรอาจได้รับ 50% จากเงินช่วยเหลือสนับสนุนข้อเสนอโครงการ 30% ผ่านกิจกรรมต่างๆ 15% เป็นการเก็บค่าสมาชิก และ 5% จากการบริจาคที่ไม่ใช่เงิน

บางแห่งอาจได้รับเงินทุน 70% ผ่านโครงการผู้บริจาครายใหญ่ 20% ผ่านการระดมทุนทางไปรษณีย์ และ 10% ผ่านกิจกรรมระดมทุน องค์กรไม่แสวงผลกําไรประเภทต่างๆ ปรับตัวเข้ากับแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย โดยขึ้นอยู่กับภารกิจและโครงการของพวกเขา

แม้ว่าการได้รับเงินทุนจากหลายแหล่งจะเป็นเรื่องปกติในหมู่องค์กรพัฒนาเอกชนส่วนใหญ่ แต่การวิจัยได้แสดงให้เห็นว่า 90% ขององค์กรพัฒนาเอกชนที่โดดเด่นที่สุดใช้รูปแบบการระดมทุนที่สร้างขึ้นจากแหล่งรายได้หลักเพียงแหล่งเดียว

เรามักจะได้ยินว่าการกระจายแหล่งรายได้เป็นสิ่งที่ดี แต่อาจเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่ามันหมายถึงอะไรและจะนําไปปฏิบัติได้อย่างไร

การระดมทุนส่วนบุคคลเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดและง่ายที่สุดในการรับเงินเป็นเงินสด มีความยืดหยุ่นเมื่อเทียบกับเงินทุนของสถาบัน และความสัมพันธ์ของคุณกับผู้บริจาคมีความใกล้ชิดมากกว่า

บางครั้ง ผู้บริจาคเต็มใจที่จะส่งมอบเงินบริจาคของพวกเขาในระหว่างกิจกรรม หรือไปบริจาคที่สํานักงานขององค์กรพัฒนาเอกชน แม้ว่าจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและค่อนข้างง่ายในการรับเงิน แต่การทำเอกสารก็มีความสําคัญเช่นกันและสามารถทำให้ใช้เวลาที่น้อยลงได้

นอกจากนี้ยังมีการรับรู้ว่าองค์กรพัฒนาเอกชนส่วนใหญ่ไม่ได้และไม่ควรพึ่งพาวิธีการระดมทุนส่วนบุคคลนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับความไว้วางใจจากโมเดลนี้ แต่องค์กรไม่แสวงผลกําไรคาดหวังการบริจาคเงินสดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะองค์กรที่ประสบปัญหาด้านขาดแคลนเงินทุนในการดำเนินงาน

แม้ว่าการระดมทุนรายบุคคลจะไม่ได้กลายเป็นรูปแบบที่จัดตั้งขึ้น แต่การสํารวจและการศึกษาจํานวนมากในหมู่องค์กรพัฒนาเอกชนและองค์ไม่แสวงหากำไรแสดงให้เห็นว่าเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ของการบริจาคทั้งหมดให้กับองค์กรไม่แสวงผลกําไรมาจากบุคคลทั่วไป ข้อมูลจาก NP Trust แสดงให้เห็นว่า คนอเมริกันบริจาคมากกว่า 484.85 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 สะท้อนถึงการเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปี 2563 ส่งผลให้การบริจาคเพื่อการกุศลรายบุคคลเป็นหนึ่งในแหล่งเงินทุนที่ไม่แสวงหาผลกําไรที่ดีที่สุด

บุคคลทั่วไปบริจาคมากกว่า 70% ของเงินทั้งหมดที่ระดมทุนโดยองค์กรไม่แสวงผลกําไรในสหรัฐอเมริกา จากข้อมูลของ GivingUSA เปอร์เซ็นต์นี้ผันผวนทุกปี โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 70-80% ของการให้ทั้งหมด การบริจาคส่วนบุคคลอาจไม่ได้รับเงินจำนวนมากเหมือนกับการลงทุนขององค์กรและมูลนิธิหรือภาระผูกพันของผู้บริจาครายใหญ่ อย่างไรก็ตาม การหาทุนมาจากบุคคลทั่วไปสามารถทําให้คุณได้รับทุนมากขึ้น และแข่งขันเพื่อให้ได้รับเงินบริจาคเหล่านี้กับองค์กรพัฒนาเอกชนอื่นๆ

ผลการสํารวจและการวิจัยแสดงให้เห็นว่า รูปแบบการระดมทุนของจากบุคคลทั่วไป สามารถเป็นแหล่งเงินทุนที่ดีสําหรับองค์กรพัฒนาเอกชนใดๆ ดังนั้น การมุ่งเน้นไปที่ผู้บริจาครายบุคคลและทําให้พวกเขาเป็นจุดโฟกัสของรูปแบบการระดมทุนของคุณจึงเป็นการตัดสินใจที่สําคัญและชาญฉลาดสําหรับองค์กรพัฒนาเอกชนทุกแห่งในปัจจุบัน

เงินทุนส่วนบุคคลคืออะไร

เงินทุนส่วนบุคคล คือเงินทุนที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งมอบให้กับองค์กรพัฒนาเอกชนหรือองค์กรไม่แสวงหากําไรบางแห่ง โดยทั่วไปเงินและการบริจาคมาจากรายได้และทรัพย์สินของเขา อาจเป็นใครก็ได้ที่สนับสนุนการทํางานขององค์กรพัฒนาเอกชนนั้นๆ

เงินส่วนตัวที่มอบให้กับการกุศลเป็นประเพณีอันยาวนานในทุกวัฒนธรรมและศาสนา แต่แนวคิดเรื่องการบริจาคให้องค์กรพัฒนาเอกชนเป็นเรื่องล่าสุด ผู้บริจาครายบุคคลสามารถบริจาคครั้งเดียวหรือแบบประจําได้ พวกเขายังให้ในรูปแบบอื่นๆ ที่หลากหลาย: ออนไลน์และออฟไลน์ กิจกรรมระดมทุนต่างๆ การประมูล การบริจาครายเดือนหรือรายปี และอื่นๆ

ในการสร้างฐานการสนับสนุนจากผู้บริจาครายบุคคล คุณเริ่มต้นได้ด้วยการให้ความรู้แก่ผู้คนเกี่ยวกับองค์กรพัฒนาเอกชนและงานขององค์กรพัฒนาเอกชนของคุณ จากนั้นให้หาแผนที่ที่มั่นคงและแนวทางที่รอบคอบ จัดประชุมกับเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการบริหาร อาสาสมัคร และสมาชิกในชุมชน เพื่อหารือเกี่ยวกับประเพณีการให้ในชุมชนของคุณ กำหนดว่าเมื่อใด ที่ไหน อย่างไร และทําไม ผู้คนจึงให้

ใครคือผู้บริจาครายบุคคล

ผู้บริจาครายบุคคลรวมถึงผู้คนหลายล้านคนและครอบครัวที่บริจาคผ่านการบริจาคเล็กน้อยหรือแม้แต่การบริจาคล้านดอลลาร์ แม้ว่าการบริจาคส่วนบุคคลที่เฉพาะเจาะจงจะมีขนาดเล็ก แต่ตัวเลขก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการบริจาคแบบนี้

มีผู้บริจาคที่มีศักยภาพมากมายที่มอบเงินให้กับงานที่น่ายกย่อง ผู้บริจาคทุกคนมีเหตุผลที่แตกต่างกันในการให้ ในขณะที่ให้แต่ละคนมีวิสัยทัศน์และความพยายามในการให้ความช่วยเหลือองค์กร ดังนั้นองค์กรพัฒนาเอกชนหรือทีมระดมทุนควรมีแผนแนวทาง/วิธีการที่ชัดเจน

จําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเพื่อดึงดูดผู้บริจาคที่มีศักยภาพให้รับเงินเพื่อสนับสนุน ผู้บริจาครายบุคคลที่มีศักยภาพได้แก่:

บุคคลที่ร่ำรวย (HNWIs) และชนชั้นกลางระดับบน

ผู้เชี่ยวชาญ

ครอบครัวและเพื่อน

นักเรียนและสมาชิกขององค์กรการกุศล

ไม่ใช่แค่นั้น ใครก็ตามที่เข้าใจและสนับสนุนการทํางานขององค์กรพัฒนาเอกชนของคุณสามารถเป็นผู้บริจาครายบุคคลที่มีศักยภาพได้เช่นกัน

เราจะระบุและเกี่ยวข้องกับผู้บริจาครายบุคคลได้อย่างไร

ผู้บริจาครายบุคคลสามารถเป็นใครก็ได้ – ผู้คนจากชุมชน ทางภูมิศาสตร์ ชาติพันธุ์ หรือความเชื่อของคุณเอง และผู้คนที่อยู่นอกนั้น

พวกเขาสามารถเป็นเพื่อน เพื่อนบ้าน หรือเพื่อนร่วมงานของสมาชิกคณะกรรมการ อาสาสมัคร หรือพนักงาน หากคุณมองไปรอบๆ คุณจะเห็นว่าคุณถูกล้อมรอบไปด้วยคนที่สนับสนุนคุณและเต็มใจที่จะให้ถ้าคุณขออะไรบางอย่าง

เข้าให้ถึงกลุ่มของสมาชิกคณะกรรมการ, พนักงาน, อาสาสมัคร, และผู้เข้าร่วมโครงการ ร่างรายการคนที่คุณรู้จักอยู่แล้วว่าใครเชื่อในงานของคุณและสามารถมีส่วนร่วมได้ทั้งตำแน่งเล็กและใหญ่ ลองนึกถึงสมาชิกในชุมชนของคุณที่มีบริการช่วยอาสา สละเวลา บริจาค หรือให้คําปรึกษา เช่น อาจารย์มหาวิทยาลัย ครู พนักงานของธนาคาร หรือสถาบันธุรกิจ และเจ้าของอื่นๆ

นอกจากนี้ให้ระบุรายชื่อคนที่อาจไม่ทราบเกี่ยวกับงานของคุณ แต่อาจสนใจ ในการรวบรวมรายการนี้ให้คิดไปไกลกว่าเพียงแค่แสดงรายการชื่อบุคคล ให้พิจารณาหมวดหมู่ หรือเครือข่ายของผู้มีส่วนร่วมที่มีศักยภาพด้วย

การระดมทุนระดับรากหญ้า

คําว่า “รากหญ้า” หมายถึงชุมชนและผู้คนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาหรือประเด็นนั้นๆ ดังนั้น การระดมทุนระดับรากหญ้าหมายถึงการระดมทุนจากผู้คนในชุมชน

ผู้จัดงานหลายคนสงสัยว่า “องค์กรของฉันจะหาเงินจากบุคคลได้อย่างไร เราไม่รู้จักคนรวยคนไหนเลย!”

ที่จริงแล้ว องค์กรชุมชนส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากหลายๆ คนที่เต็มใจให้เมื่อถูกถาม

นี่คือแก่นแท้ของการระดมทุนระดับรากหญ้า แม้แต่คนที่มีรายได้พอประมาณก็สามารถให้ทุนหรือช่วยเหลือในบางกิจกรรมได้เล็กน้อย ความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ร่วมกัน จะทำให้กลายเป็นจํานวนมากได้

คุณสามารถทดสอบกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เพื่อดูว่าคําตอบคืออะไร คุณจะพบว่า หลายคนต้องการที่จะสนับสนุนคุณด้วยเหตุผลต่างๆ มากกว่าที่คุณคิดและจินตนาการ

ออกไปพบปะผู้คน พูดคุยเกี่ยวกับงานและวิสัยทัศน์ของคุณ จัดการประชุมและนําเสนอสิ่งที่องค์กรของคุณกําลังทําประโยชน์ต่อผู้ที่แสดงความสนใจ

ค้นหาผู้สนับสนุนองค์กรพัฒนาเอกชนของคุณ

หากคุณกําลังเริ่มต้นการระดมทุน คุณอาจไม่รู้ด้วยซ้ําว่าผู้สนับสนุนของคุณคือใคร และคุณไม่มีวิธีปฏิบัติที่จะรู้ได้ ดังนั้นขั้นตอนแรกคือการหาคนที่อาจสนใจที่จะช่วยเหลือองค์กรพัฒนาเอกชนของคุณ และหาวิธีขอการสนับสนุนของพวกเขา จากนั้นคุณต้องถามพวกเขาบางอย่าง

การคิดเกี่ยวกับสิ่งที่จะขอและจํานวนเท่าใดอาจเป็นโอกาสที่ดีในการเริ่มสร้างข้อความระดมทุน

ข้อความการระดมทุนที่น่าสนใจ สะเทือนอารมณ์ และเกี่ยวข้อง สามารถเชื่อมโยงบุคคลที่สนใจเข้ากับภารกิจของคุณ และช่วยให้เกิดการมีส่วนร่วมเล็กๆ น้อยๆ จากผู้คนที่ประทับใจในภารกิจของคุณ

การหาผู้สนับสนุนบางคนเป็นขั้นตอนแรกในการหาคนมาสนับสนุนคุณมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นขั้นตอนในการสร้างฐานผู้สนับสนุน นี่คือขั้นตอนแรกในการก้าวไปข้างหน้า:

ถามทุกคนที่เกี่ยวข้องกับองค์กรของคุณอยู่แล้ว คุณอาจประหลาดใจมากที่ได้เรียนรู้ว่าเขาเหล่านั้นพร้อมที่จะสนับสนุนคุณ

ขอให้ทุกคนที่ให้ชื่อคุณแนะนําคนสองสามคนที่อาจสนใจงานขององค์กรพัฒนาเอกชน บุคคลที่แนะนําควรได้รับการติดตามด้วยอีเมล จดหมาย โทรศัพท์ และช่องทางการสื่อสารอื่นๆ การติดตามผลกับบุคคลที่มีศักยภาพเป็นสิ่งสําคัญในการเพิ่มโอกาสในการได้รับบริจาครายบุคคล

สร้างรายชื่อผู้รับจดหมาย

หากต้องการสื่อสารกับผู้บริจาค ให้เตรียมการร้องขอและเจาะจงเกี่ยวกับจํานวนเงินเป้าหมาย นอกจากนี้ควรพยายามผลิตโบรชัวร์และแผ่นพับที่เหมาะสมเกี่ยวกับงานของคุณ

เมื่อคุณเริ่มสร้างรายชื่อผู้รับจดหมาย มันจะค่อนข้างง่ายที่จะขยายต่อไป เมื่อคุณมีรายชื่อผู้รับจดหมาย 100 รายการขึ้นไป ตัวอย่างเช่น คุณอาจพบว่าโครงการระดมทุนทางจดหมายโดยตรงกําลังทยอยเป็นรูปเป็นร่าง เมื่อรายชื่อของคุณเริ่มขยาย มันจะต้องได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมเพื่อเพิ่มชื่อใหม่ อัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริจาคแต่ละราย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รับแจ้งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ ฯลฯ

สร้างเครือข่ายกับชุมชนท้องถิ่นของคุณ

องค์กรพัฒนาเอกชนส่วนใหญ่ล้มเหลวในการใช้ประโยชน์จากความจริงที่ว่า พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนท้องถิ่นและคนในท้องถิ่นบางคนอาจสนใจในสิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของตน คุณควรเชื่อมต่อพวกเขาและหาผู้คนที่จะสนใจ แจกจ่ายผลงานของท่านให้แก่ชาวบ้านที่สนใจ

จดบันทึกและถามพวกเขาว่าพวกเขาต้องการรับจดหมายข่าวหรืออีเมลเป็นครั้งคราวเกี่ยวกับงานของคุณหรือไม่

ขอให้สมาชิกในชุมชนท้องถิ่นมาเยี่ยมชมองค์กรของคุณเพื่อดูงาน

เชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงให้เข้าร่วมเพราะจะดึงดูดความสนใจของผู้อื่น และจะสร้างผลกระทบเชิงบวกภายในชุมชนให้กับงานของคุณ

คุณยังสามารถพิจารณาบุคคลในท้องถิ่นในฐานะสมาชิกคณะกรรมการขององค์กรพัฒนาเอกชนของคุณ สิ่งนี้ดีเสมอสําหรับองค์กรในท้องถิ่นใดๆ เนื่องจากจะเป็นการเชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่น

อะไรเป็นแรงจูงใจให้บุคคลบริจาค

บุคคลมีแนวโน้มที่จะบริจาคเมื่อพวกเขารู้ว่าเงินของพวกเขาจะช่วยเหลือผู้อื่นหรือโครงการที่เข้าถึงจิตใจของพวกเขา ดังนั้นสิ่งที่กระตุ้นและดึงดูดพวกเขาคืออะไร

ผู้บริจาครายบุคคลมักต้องการบางสิ่งเพื่อแลกกับการบริจาค แม้จะเป็นเพียงแค่อีเมลขอบคุณหรือจดหมายข่าวที่บอกว่าพวกเขามีส่วนร่วมสนับสนุนความพยายามขององค์กรของคุณอย่างไร

วิธีปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการระดมทุนจากบุคคลคืออะไร

การขอบริจาคไม่ใช่เรื่องง่ายสําหรับทุกคน แต่จําเป็นอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดขององค์กร เมื่อพูดถึงองค์กรพัฒนาเอกชนและองค์กรไม่แสวงกําไรนั้น เงินทุนมีความสําคัญเท่ากัน จึงต้องมีวิธีจัดการกับความท้าทายในการระดมทุน และวิธีสร้างฐานผู้บริจาคตลอดชีวิตที่แข็งแกร่ง รวมถึงจุดที่ควรเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาผู้บริจาค ได้แก่:

ความหลงใหลในวิสัยทัศน์ของคุณ

อย่ารู้สึกละอายใจที่จะขอเงิน

มุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์

บอกเล่าเรื่องราวที่มีประสิทธิภาพ

เริ่มต้นด้วยสิ่งที่คุณรู้และหาทางออกของคุณ

ลงทุนเวลาในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริจาค

ค้นหาวิธีที่จะให้ผู้บริจาคของคุณมีส่วนร่วมในภารกิจขององค์กรของคุณ

มีพนักงานระดมทุนมืออาชีพ

ส่งเสริมวัฒนธรรมการทําบุญ

กลยุทธ์และเคล็ดลับที่เกี่ยวข้องกับการบริจาคส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง

ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์และเคล็ดลับในการเพิ่มการบริจาคส่วนบุคคลซึ่งจะช่วยให้องค์กรพัฒนาเอกชนของคุณเติบโต:

เมื่อวางแผนกิจกรรมระดมทุนหรือแคมเปญ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเสนอระดับการบริจาคหลายระดับและกระตุ้นให้ผู้บริจาคมอบสิ่งที่พวกเขาสามารถให้ได้

เสนอกระบวนการออนไลน์ที่ผู้คนสามารถบริจาคทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านการโอนเงินทางอินเทอร์เน็ต บัตรเครดิต PayPal และโหมดออนไลน์อื่นๆ

สร้างวิธีในการสนับสนุนเป็นระยะๆ เช่น การตั้งค่าการมีส่วนร่วมที่เกิดขึ้นประจําด้วยตัวเลือกการเรียกเก็บเงินรายเดือน เช่น PayPal การสมัครสมาชิกและแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสําหรับธุรกรรมเหล่านี้

เนื่องจากการบริจาคส่วนบุคคลมีความสําคัญต่อการทํางานขององค์กรไม่แสวงผลกําไร นี่คือกลยุทธ์บางประการในการเพิ่มการมีส่วนร่วม:

ขั้นแรก ให้พัฒนาความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้บริจาค ความสําเร็จของแคมเปญระดมทุนขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งและความลึกของความสัมพันธ์ของผู้บริจาคของคุณ น่าเสียดายที่องค์กรพัฒนาเอกชนส่วนใหญ่ยังคงมีช่องว่างที่ต้องปรับปรุง เนื่องจากผู้บริจาคจํานวนมากรู้สึกโดดเดี่ยว หรือไม่ทราบว่าพวกเขาเข้ากับวิสัยทัศน์โดยรวมขององค์กรอย่างไร

สิ่งที่สําคัญที่สุดที่ต้องมุ่งเน้น คือการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริจาคในเชิงลึกและเป็นส่วนตัวกับพวกเขา ด้วยการโทรหา ไปพบ และส่งข้อความที่เป็นส่วนตัว

ประการที่สอง พัฒนากลยุทธ์การจัดการผู้บริจาค กลยุทธ์นี้ควรแสดงถึงวิธีที่ดีที่สุดสําหรับคุณในการดึงดูดผู้บริจาคและรับข้อเสนอแนะจากพวกเขา กลยุทธ์นี้จะต้องสอดคล้องกับความต้องการขององค์กรและความต้องการของผู้บริจาค

อย่าใช้วิธีการสื่อสารแบบไม่มีการเตรียมการ คุณต้องพัฒนาแผนเพื่อสนับสนุนโครงการระดมทุนของคุณและยึดติดกับมัน จากนั้นคุณจะอยู่ในใจของผู้สนับสนุนของคุณ

บทสรุป:

หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการระดมทุนคือการบริจาครายบุคคล คุณสามารถทําได้โดยขอความช่วยเหลือจากผู้คนหรือใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์กับเพื่อนและครอบครัว เครือข่ายโซเชียลมีเดีย และเครือข่ายในชุมชนของคุณ สองกลยุทธ์ขึ้นอยู่กับประเภทของผู้บริจาคที่คุณต้องเข้าถึงและเวลาที่คุณมี ประการแรกเงินทุนส่วนบุคคลเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณกับผู้บริจาค ดังนั้น โปรดจําไว้ว่าการเชื่อมต่อและเครือข่ายของคุณจะบริจาคให้คุณ สิ่งที่สําคัญที่สุดที่ต้องมุ่งเน้นคือการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริจาคที่งดงามและเป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการบรรลุความสําเร็จของการระดมทุนรายบุคคล

ที่มา https://www2.fundsforngos.org/

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.