61 ผู้กล้าสอนสั่ง ตำหนิได้ โดยเจตนาดีทันทีทันควัน เป็นผู้ไม่มีมารยาท
การตำหนิสั่งสอนถือเป็นหน้าที่ และเป็นการโคชไปด้วย เมื่อเกิดความผิดพลาดก็ควรให้อภัยเขา แต่ควรต้องให้เขาได้รับรู้และจดจำไว้ เพราะการเกรงใจเขาคือการทำร้ายเขาทางอ้อม หรือให้เขามีโอกาสทำได้อีกนั่นเอง
เมื่อเราทราบว่าการตำหนิด้วยเจตนาดี มีทัศนคติที่ดี แบบเป็นพี่ เป็นพ่อแม่แล้ว เราก็ไม่ควรลังเลและไม่ควรกลัวเขาโกรธ
เพราะเราทำด้วยเจตนาดีและเพื่อประโยชน์ของตัวเค้าเองอีกด้วย ถึงเขาโกรธแต่เวลาผ่านไปเขาก็จะเข้าใจว่าหากเราไม่รักเขาจริง เราไม่เสียเวลาตำหนิเขาหรอก
และเมื่อเป็น MD ยิ่งต้อง ทำทันทีเพราะอาจลืมได้ง่าย เนื่องจากต่างคนต่างมีเรื่องราวมากมาย ตำหนิแล้วก็อภัยและปล่อยวางนั่นเอง จะทำให้ทุกคนดีขึ้นเรื่อยเรื่อย การตำหนิทันทีนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ MD ที่เรียกว่าเป็นผู้ไม่มีมารยาทอย่างไรล่ะ
62 ผู้ต้องมุ่งมั่นไม่ท้อถอย ไม่ยอมแพ้ต่อสภาวะแวดล้อม เป็นผู้ปลงไม่ตก
ความมุ่งมั่นเป็นคุณสมบัติที่สำคัญ ในการฟันฝ่าไปสู่เส้นทางแห่งเป้าหมาย หากเราไม่มั่นคงในเป้าหมายหรือไม่มีความมุ่งมั่นแล้ว เราก็จะยอมแพ้กลางคันได้ เพราะมัวแต่ไปยึดติดกับสภาพแวดล้อมภายนอก
การมีความมุ่งมั่นคือการไม่ยึดติดกับอดีตไม่ยึดติดกับสิ่งภายนอก ยึดติดแค่เป้าหมายโดยไม่ยอมปลงตก ไม่ท้อแท้ ที่ MD  ต้องมีคุณสมบัตินี้ที่เรียกว่าเป็นผู้ปลงไม่ตกอย่างไรล่ะ
63 ผู้ต้องรู้จังหวะในการจัดการ ป้องกัน ปกป้อง ตอบโต้ เป็นมวย
ในสถานการณ์ทางธุรกิจนั้น มีทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ซึ่งรวมแล้วมีมากมายหลายปัจจัย โดยไม่สามารถกำหนดกฎเกณฑ์ตายตัวได้ เราต้องพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ให้ได้
มีคำกล่าวว่า ชีวิตไม่มีการซ้อม ต้องพร้อมเสมอ เป็นเรื่องจริงที่ต้องนำมาใช้กับตัวเรา โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้นำหรือ MD เพราะเราไม่สามารถกำหนดสิ่งที่จะมากระทบเราได้ แต่ทำอย่างไรที่เราจะโดนกระทบโดยไม่กระเทือนนั่นเอง จึงเรียกคุณสมบัติการเตรียมพร้อมของท่าน MD  ว่าเป็นมวย
64 ผู้ต้องมุ่งผลลัพธ์จากการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด เป็นนักแม่นปืน
ยุคนี้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างรวดเร็ว การลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา เราต้องปรับตัวให้ทันและนำหน้าการเปลี่ยนแปลงจึงจะอยู่รอดได้ ทรัพยากรที่เราพูดถึงในครั้งนี้ก็คือ เงินและเวลา
การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดและมีข้อจำกัดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อความอยู่รอดเลยทีเดียว ซึ่งกว่าจะมาเป็น MD ได้ เรื่องนี้ต้องถูกฝึกจนชำนาญเหมือนในสนามลบที่เรามีกระสุนจำกัด ที่เรียก MD ว่าเป็นหนักแม่นปืนอย่างไรล่ะ
65 ผู้ต้องสามารถโน้มน้าวชักจูงผู้คนได้ เป็นผู้ล้างสมอง
การโน้มน้าวจะเป็นการดึงพลังร่วมของผู้คนให้ออกมาลุยด้วยกัน แต่การโน้มน้าวนั้นต้องไม่ใช่การโกหก ต้องเป็นเป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับจากความศรัทธา ซึ่งผู้นำต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ก่อนถึงจะโน้มน้าวชักจูงใจผู้คนให้ทำตามได้
องค์กร ก็เช่นเดียวกัน MD  ต้องใช้พระเดชพระคุณในเรื่องนี้ให้ได้ ให้เกิดความศรัทธาบารมี แล้วการเปลี่ยนแปลงขององค์กรก็จะทำได้ง่ายขึ้น ที่เรียก MD ว่าเป็นผู้ล้างสมองอย่างไรล่ะ
66 ผู้ต้องมีความจำดีเลิศ ทำงานที่กขังได้ครบ เป็นฮาร์ดดิสก์
การติดตามงานเป็นหัวใจสำคัญของการเดินหน้าของงานต่างๆ ยิ่งตำแหน่งสูงเท่าไหร่ การสั่งงานต่างๆก็จะเพิ่มมากขึ้น
การฝึกตามงานด้วยตนเองโดยสร้างความจำเชื่อมโยงกับเป้าหมาย เชื่อมโยงกับความสำคัญ เชื่อมโยงกับความเร่งด่วน เป็นฝีมือและทักษะที่ผู้ MD ต้องมีการสร้างระบบความจดจำนี้ ที่เรียกว่า เป็นฮาร์ดดิสก์อย่างไรล่ะ
67 ผู้ต้องมีการมองข้ามช็อต วางแผนล้ำเกินคนคิด เป็นพวกตาทิพย์
การที่เราจะทำสิ่งที่เหนือกว่าได้นั้นเราเองต้องเป็นคนที่เหนือกว่าก่อน คือต้องมีเครือข่ายรับรู้การเปลี่ยนแปลง พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาให้ล้ำสมัย ติดตามเทรนด์ต่างๆ จนสามารถคาดเดาความเป็นไปได้และความเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเกิดขึ้นได้
ยิ่งเราฝึกทำมากเท่าไร ผ่านความสำเร็จความล้มเหลวมากเท่าไร ความแม่นยำก็จะมากขึ้นเท่านั้น เหมือนเรามีความสามารถพิเศษที่เหนือคนเลยทีเดียว MD ที่ทำแบบนี้ได้เป็นพวกตาทิพย์
68 ผู้ต้องจัดสภาพ จัดบุคลากรให้ลดการเผชิญหน้ากับปัญหา เป็นนักสนุกเกอร์
วิธีการการจัดการปัญหาในช่วงแรกของการขัดแย้งจะมีเรื่องของภาวะทางอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก การใช้หลักเหตุผลในการยับยั้งปัญหาจึงเป็นเรื่องที่อาจไม่ได้ผลในช่วงนี้
ทางที่ดีที่สุดคือการแยกสภาพแวดล้อมลดการเผชิญหน้าลงซักระยะหนึ่งก่อน และผู้ที่มีอำนาจจัดสรรแยกงานแยกพื้นที่ในเรื่องนี้ได้เร็วที่สุดน่าจะเป็น MD ที่เรียกว่าเป็นนักสนุกเกอร์อย่างไรล่ะ
69 ผู้ต้องวางตัวเข้าได้กับทุกระดับทุกสังคม เป็นทั้งยีราฟและงูดิน
การเป็นผู้นำการเป็นหัวหน้า สิ่งที่ต้องไม่ลืมคือมีความเป็นคนเหมือนกันนะ การมีตำแหน่งเป็นการสวมหัวโขนชั่วคราวเท่านั้นไม่ใช่ความถาวร แต่ความถาวรในโลกใบนี้คือความเป็นคนที่เหมือนกันนั่นเอง
ดังนั้นการวางตัวเข้ากับคนได้ทุกคน ไม่ทำให้คนรอบข้างรู้สึกเกร็ง จะทำให้เราได้ข้อมูลความเป็นจริงมากขึ้น ดูแลให้ความรู้สึกกับลูกน้องเหมือนเป็นลูกเป็นน้องเราก็เท่านั้นเอง
สำหรับการติดต่อกับคนภายนอกก็เช่นเดียวกัน มีทั้งที่สูงกว่าและต่ำกว่าเรา การนับถือและการเคารพความเป็นคนจึงนับเป็นพื้นฐาน
ที่มากกว่านั้นก็คือ การหาเรื่องราวหรือสิ่งของที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้อื่น การให้พลังบวกกับการนับถือความเป็นคน เป็นการวางตัวที่จำเป็นสำหรับ MD  ที่เรียกว่าเป็นทั้งยีราฟและงูดิน
70 ผู้ต้องเก่งทั้งวิชาการและทั้งการปฎิบัติ เป็นทั้งบุ๋นและบู๊
ในเมื่อมีคนที่เคยเดินเส้นทางนี้เขียนวิธีการไว้ให้แล้ว ทำไมเราไม่อ่าน ไม่ศึกษา ไม่นำมาประยุกต์ใช้เลยล่ะ
การพิสูจน์ฝีมือและความพร้อมของเราก็คือการที่เรา สามารถแชร์ สามารถสอน สามารถโค้ชผู้อื่นได้ ยิ่งออกไปขึ้นเวทีสอนบุคคลภายนอกได้ ยิ่งถือว่าเริ่มใช้ได้นั่นเอง ดังนั้น MD ต้องมีความพร้อมที่เรียกว่า เป็นทั้งบุ๋นและบู๊ อย่างไรล่ะ
ที่มา: C. Somkum. 100 บทบาทเพื่อก้าวสู่เส้นทางเป็น MD อย่างมืออาชีพ. กรุงเทพฯ : เช็ก. 2567.
