คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะต่อสู้แบบไอกิโดมากกว่าคาราเต้ เมื่อไหร่ที่คุณเกิดความรู้สึกโมโหขึ้นมา ลองปล่อยให้อีกฝ่ายได้หน้าและกระหยิ่มยิ้มย่องไป คนโง่นั้นพอรู้ตัวเลาๆ อยู่แล้วว่าตัวเองไม่เป็นที่ชื่นชอบของทุกคนนัก ต่อให้เขาจะไม่สะทกสะท้านต่อข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่มนุษย์ทุกคนต่างก็ต้องการเป็นที่รักและเป็นที่ยอมรับ ดังนั้น ยิ่งอีกฝ่ายเป็นคนที่คุณไม่พอใจ ก็ยิ่งต้องเข้าหาเขาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับไหว้หวานให้ช่วยทำเรื่องต่างๆ แม้จะมีเรื่องที่ทำให้รู้สึก แต่หากอีกฝ่ายเป็นผู้มีอำนาจก็ควรปล่อยให้เขาได้หน้าไปก่อน
คุณอาจแสร้งทำเป็นถูกเล่นงานจากการโจมตี หรือการกลั่นแกล้งของอีกฝ่ายก็ได้ แต่อย่าแสดงท่าทีฮึดสู้หรือโต้กลับ คุณอาจรู้สึกเจ็บใจที่สู้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นก็ให้แสดงท่าทีว่าโดนเล่นงานเข้าแล้ว หรือเอาชนะไม่ได้ ถึงจะทำได้ยากแต่ก็ก็ควรลองดู
หากเราอยากทำเป้าหมายให้สำเร็จจริงๆ เราก็จะสามารถก้มหัวให้คนอื่นสักกี่ครั้งก็ได้ ซึ่งคนโง่จะยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มนุษย์อวดดีและแผ่ออร่าไม่ชอบขี้หน้าตัวเองมาก้มหัวให้ เขารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รับชัยชนะและนึกกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ
ปล่อยให้เป็นแบบนั้นไปนั่นแหละ คนโง่ก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน เมื่อเป็นเช่นนี้การระแวดระวังของเขาจะลดลงและถูกอารมณ์เข้าครอบงำ แต่จงพึงระวังไว้ว่าคนพวกนี้ขี้ระแวง ดังนั้น เวลาที่ก้มหัวให้เขา คุณจะต้องทำด้วยความจริงใจและจริงจัง มิฉะนั้นจะไม่ได้ผล ในเมื่อคิดจะยอมก้มหัวให้อยู่แล้วก็ทำให้ถึงที่สุดไปเลย หลังจากนั้นค่อยไปด่าทอคนโง่ในที่ลับตาคนเพื่อระบายความเครียดของตัวเองก็ได้ แต่ไม่ควรพูดนินทาลับหลังกับคนอื่นโดยเด็ดขาด เพราะมันอาจถ่ายทอดไปถึงหูอีกฝ่ายได้ ในการเขียนลงโซเชียลมีเดียก็ไม่ควรทำ เพราะสุดท้ายแล้วอาจถูกเปิดโปงได้
ที่มา: ทามุระ โคทาโร่. 2014. ถึงโมโหก็อย่าสู้กับคนโง่. สำนักพิมพ์วีเลิร์น.
