การระดมทุนในประเทศไทยช่วงสถานการณ์โควิด-19 ต่างจากเหตุการณ์ฉุกเฉินอื่นๆ เช่น ภัยพิบัติ อย่างไร

เหตุการณ์ภัยพิบัติในไทยนั้น ส่วนมากแล้วมักจะเกิดในบางส่วนของประเทศ เช่น สึนามิ พ.ศ. 2547 มีผลกระทบต่อภาคใต้ หรือ เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ พ.ศ. 2554 แม้ว่าจะท่วมทั้งประเทศ แต่ก็มีเพียงบางส่วนที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ในขณะที่บางพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก หรือ เหตุการณ์ไฟไหม้ป่าที่ส่วนมากจะเกิดที่ภาคเหนือ สถานการณ์เหล่านี้ทำให้พวกเรามีเวลาในการเตรียมตัว ผู้ที่ได้รับผลกระทบน้อยหรือไม่ได้รับผลกระทบเลย ก็จะสามารถช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนได้ และมีผลต่อเศรษฐกิจในบางภาคส่วนเท่านั้น

แต่โควิด-19 เป็นเรื่องที่ส่งผลต่อทุกคน ทุกภาคส่วน เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงโรคระบาดได้ เรายังคงไม่มีวัคซีนในการป้องกันโรคนี้ และยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ หากติดเชื้อโควิด-19 ก็ต้องรักษาตามอาการ หากผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว หรือ อ่อนแอ อายุมาก ก็มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ การที่ต้องปิดประเทศ ปิดการเดินทาง ปิดสนามบิน ปิดห้างและร้านค้าต่างๆ ทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก พนักงานไม่สามารถไปทำงานได้ ต้องทำงานที่บ้าน หรือ ถูกเลิกจ้าง โดยเฉพาะพนักงานรายวัน บริษัทต่างๆ ที่วางแผนจัดกิจกรรม เช่น โปรโมทสินค้า งานกิจกรรมเพื่อสังคม ต้องหยุดชะงักทั้งหมด เพื่อรอดูเหตุการณ์ และไม่สามารถตอบได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร การที่จะระดมทุนในช่วงที่ทุกคนเดือดร้อนนั้นค่อนข้างเป็นไปได้น้อย

แล้วน้องหมาน้องแมวจรเป็นอย่างไรกันบ้าง

แน่นอนน้องๆ ลำบากเพราะกิจการต่างๆ ปิด ตามนโยบายของรัฐบาล ร้านอาหารที่เคยให้อาหารน้องหมาน้องแมวไม่มีรายได้ ไม่มีอาหารเหลือมาแบ่งปันอีกต่อไป บางร้านเช่น คาเฟ่แมว ขาดรายได้และต้องปิดตัว ทิ้งแมวหลายร้อยตัวไปตามยถากรรม ผู้คนและชุมชนที่เคยให้อาหารน้องไม่มีรายได้ น้องๆ อยู่อย่างอดอยาก

การขอสนับสนุนจากบริษัทต่างๆ เพื่อช่วยเหลือสุนัขและแมวจรจัดนั้นเป็นโจทย์ค่อนข้างยาก เพราะสถานการณ์นี้ ทุกคนจะมุ่งไปที่ดูแลคนให้ปลอดภัยก่อน โดยเฉพาะการช่วยบุคลากรทางการแพทย์ที่แม้แต่ชุดและหน้ากากอนามัยที่จะป้องกันตัวนั้นยังไม่มี ในขณะที่ภาครัฐก็ไม่สามารถสนับสนุนสิ่งจำเป็นเหล่านี้ให้กับด่านหน้าของประเทศได้อย่างทันท่วงที ภาคเอกชนและบุคคลทั่วไปจึงได้ร่วมด้วยช่วยกันในสถานการณ์เช่นนี้

องค์กรเอกชน หรือ เอ็นจีโอที่เกี่ยวข้องได้พยายามช่วยเหลือน้องๆ อย่างเต็มกำลัง และระดมทุนขอความช่วยเหลือจากบุคคลทั่วไปที่มีใจรักสัตว์

บริษัทต่างๆ ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน ต้องชะลอแผนกิจกรรมเพื่อสังคมไปอย่างไม่มีกำหนด การที่จะไปขอความช่วยเหลือกับบริษัทนั้นค่อนข้างยาก เพราะส่วนใหญ่จะไปช่วยเหลือคนก่อนในตอนนี้ นอกจากนี้นโยบายด้านความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคมของแต่ละบริษัทแตกต่างกัน และมักจะลิ้งค์กับผลิตภัณฑ์ของบริษัท การที่จะไปขอบริษัทใหญ่ๆ อย่าง PTT SCG ฯลฯ มาบริจาคช่วยน้องหมาน้องแมว อาจเป็นเรื่องไกลตัวไปสักหน่อย การกลั่นน้ำมันนั้นไปเกี่ยวกับน้องหมาอย่างไร? การบริจาคช่วยเหลือสัตว์จรจัดช่วยส่งเสริมกิจการปูนซีเมนต์ไทยอย่างไร? ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถขอบริษัทไหนก็ได้ ต้องมุ่งไปที่บริษัทที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง ซึ่งก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน

แต่น้ำใจของคนไทยนั้นไม่มีวันหมด

เมื่อเราขอความช่วยเหลือไปยังบริษัทต่างๆ รวมถึง SME ซึ่งมักจะให้ความช่วยเหลือเสมอ มากน้อยตามแต่กำลัง อาจเป็นเพราะ การเป็น SME ทำให้เข้าใจถึงความยากลำบาก โดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้ บริษัทใหญ่ๆ หลายบริษัทที่มีจิตเมตตา เมื่อทราบถึงความลำบากก็หันมาช่วยเหลือเช่นกัน หากมีสินค้าที่สามารถช่วยเหลือได้ เช่น แอลกอฮอล์ ยา อาหารสุนัข อาหารแมว ก็ระดมมาช่วยกันและหารถขนส่งมาช่วยเหลือถึงที่ หากไม่มีของก็ช่วยเหลือด้วยการบริจาคเงิน

ทุกครั้งที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เหมือนเช่นเหตุการณ์โควิด-19 ในครั้งนี้ ทำให้ได้เรียนรู้และยืนยันได้ว่า พวกเราคนไทยนั้นมีจิตใจที่งดงาม ขอบคุณน้ำใจคนไทย ขอบคุณที่ได้เกิดเป็นคนไทย 🇹🇭

photo credit: canva

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.